ฉีดโบท็อกเกาหลี

โบท็อกเกาหลี ต่างจากโบท็อกประเทศอื่นอย่างไร ? พร้อมแนะนำ 5 ยี่ห้อ ที่อย.รับรองว่าปลอดภัย

ฉีดโบท็อกเกาหลี

สำหรับใครที่อยากเริ่มฉีดโบท็อกเพื่อเสริมความงาม แต่ไม่อยากใช้งบประมาณที่มากเกินไป อาจจะเคยได้รับคำแนะนำว่าให้เลือกโบท็อกเกาหลี เพราะออกฤทธิ์เร็ว และมีราคาที่ค่อนข้างถูกกว่าโบท็อกสัญชาติอื่น ๆ จึงได้รับความนิยม แต่เราขอแอบกระซิบว่าโบท็อกเกาหลีก็ไม่ได้มีดีแค่ราคาเพียงอย่างเดียวนะคะ บทความนี้จะพาไปดูว่า โบท็อกเกาหลีที่ได้รับอย.ไทยมีกี่ยี่ห้อ ? โบท็อกเกาหลีต่างจากโบท็อกประเทศอื่นอย่างไร ? และโบท็อกเกาหลีฉีดจุดไหนได้บ้าง ? 


แนะนำ 5 ยี่ห้อโบท็อกเกาหลียอดนิยม แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นอะไรบ้าง ?

ในปัจจุบันคลินิกเสริมความงามมีตัวเลือกโบท็อกให้เลือกกันหลายสัญชาติค่ะ เช่น โบท็อกเกาหลี โบท็อกอเมริกา และโบท็อกอังกฤษ ซึ่งโบท็อกเกาหลีถือว่าได้รับความนิยมมาก เพราะมีราคาที่ย่อมเยา และมีให้เลือกหลายยี่ห้อ 

โบท็อกเกาหลีแต่ละยี่ห้อจะใช้เทคโนโลยีการสกัดสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ และสายพันธุ์ย่อยของแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ที่แตกต่างกัน ทำให้ได้โบท็อกที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปด้วยค่ะ สำหรับโบท็อกเกาหลีที่ได้รับการรับรองว่ามีความปลอดภัยจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.ไทย) มีด้วยการหลายยี่ห้อ ดังนี้ค่ะ

1. โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Nabota

โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Nabota

โบท็อก Nabota คือ โบท็อกเกาหลีที่พัฒนามาเพื่อใช้เสริมความงาม เป็นโบท็อกเกาหลีแบรนด์แรก ๆ ที่ผ่านการวิจัยและได้รับการรับรองจาก U.S. FDA  (United States Food and Drug Administration) ของอเมริกา ทำให้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ทั้งในประเทศเกาหลี ประเทศไทย และประเทศในโซนยุโรปอีกด้วย โบท็อก Nabota ผลิตและพัฒนาตัวยามานานกว่า 30 ปี โดยบริษัท Daewoong Pharmaceutical จัดและจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท มัณฑนา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด 

จุดเด่นของโบท็อกเกาหลียี่ห้อนี้ คือ การใช้ HI-PURE Technology ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ ทำให้ได้สารโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์ถึง 98.7% ช่วยลดอัตราการดื้อโบท็อก และสามารถกลับมาฉีดใหม่ได้ค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นโบท็อกที่ตัวยาออกฤทธิ์ค่อนข้างไว สามารถใช้ฉีดลดริ้วรอยทั่วใบหน้า ปรับหน้าเรียว หรือฉีดลดสัดส่วนบริเวณน่องและแขน โดยจะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน สำหรับไซส์ของโบท็อก Nabota จะมี 100 U (กล่องสีดำ) และ 200 U (กล่องสีแดง) ค่ะ

2. โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Clodew

โบท็อก Clodew คือ โบท็อกเกาหลี ที่ได้รับการรับรองจากอย.ไทย ผลิตจากบริษัท Daewoong Pharmaceutical เช่นเดียวกับโบท็อกเกาหลียี่ห้อ Nabota นำเข้าและจำหน่ายภายในประเทศไทยโดยบริษัท แดวูง ฟาร์มาซูทิคอล ประเทศไทย 

ตัวยาของโบท็อกเกาหลียี่ห้อ Clodew มีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% มีจุดเด่นอยู่ที่การให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และช่วยเรื่องการยกกระชับหน้าโดยเฉพาะด้วยเทคนิค Double V Lifting ทำให้เห็นผลเร็วหลังฉีด นิยมใช้ฉีดยกกระชับ ลิฟกรอบหน้า ลดเลือนริ้วรอย หรือฉีดโบท็อกลดกราม โดยยี่ห้อนี้จะมีเพียงไซส์ 100 U เท่านั้น

3. โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Aestox

โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Aestox

โบท็อก Aestox คือ โบท็อกเกาหลีที่ได้รับการรับรองว่าปลอดภัยจาก KFDA (องค์การอาหารและยาประเทศเกาหลีใต้) และอย.ไทย นำเข้าโดยบริษัท Aestec Pharma ค่ะ โบท็อกเกาหลียี่ห้อนี้มีการวิจัยร่วมกับโรงพยาบาลศิริราชเป็นเวลานานกว่า 5 ปี เพื่อให้ได้ตัวยาที่มีประสิทธิภาพสูง

สำหรับตัวยาของโบท็อกเกาหลียี่ห้อ Aestox จะมีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% จึงมีโอกาสดื้อโบท็อกน้อย โดยจุดเด่นของโบท็อกเกาหลียี่ห้อนี้ คือ มีความอ่อนโยนและออกฤทธิ์ไวใกล้เคียงกับโบท็อก Allergan จากประเทศอเมริกา ที่เป็นโบท็อกยี่ห้อแรก ๆ และใช้งานกันมาอย่างยาวนานค่ะ แม้โบท็อกเกาหลีตัวนี้อายุการใช้งานจะสั้นกว่า ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 4-6 เดือน แต่ก็มีราคาถูกกว่าโบท็อกอเมริกาหลายเท่าตัวเลย

โบท็อก Aestox เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และหน้าดูไม่แข็งหลังฉีดค่ะ นิยมใช้ฉีดลดริ้วรอย ลิฟกรอบหน้า หรือลดเหงื่อ โดยขวดโบท็อกยี่ห้อนี้จะมีไซส์ 50 U (กล่องสีชมพู) 100 U (กล่องสีฟ้า) และ 200 U (กล่องสีส้ม) ค่ะ 

4. โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Hugel 

โบท็อก Hugel คือ โบท็อกเกาหลี ที่ได้รับการรับรองจากอย.ไทย และนำเข้าโดยบริษัท บอน-ซอง จำกัด โบท็อกเกาหลียี่ห้อนี้ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Hugel Inc. มีจุดเด่นอยู่ที่การพัฒนาสารโบทูลินัม ท็อกซินให้มีคุณสมบัติเทียบเคียงกับโบท็อก Allegan แต่จะอยู่ได้สั้นกว่าเล็กน้อย ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง 99.5% ออกฤทธิ์ไว แม่นยำ และการกระจายตัวแคบ สามารถใช้ฉีดลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า หรือฉีดโบท็อกรักแร้ลดเหงื่อได้ โดยจะมี 2 ไซส์ คือ 50 U (กล่องสีเขียว) และ 200 U (กล่องสีชมพู) 

5. โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Neuronox

โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Neuronox

โบท็อก Neuronox คือ โบท็อกเกาหลีที่ได้รับการรับรองจากอย.ไทย ผลิตโดยบริษัท Medytox มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 10 ปีค่ะ โดยจุดเด่นของยี่ห้อนี้ คือ ใช้โบทูลินัม ท็อกซิน เอ สายพันธุ์ออริจินัล (Hall A-hyper) เช่นเดียวกับโบท็อก Allergan ค่ะ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีหลายงานวิจัยยืนยันว่ามีประสิทธิภาพมาก

โบท็อกเกาหลียี่ห้อ Neuronox จึงมีตัวยาที่คุณภาพใกล้เคียงกับโบท็อก Allergan ทั้งในส่วนของการกระจายตัวยา และการออกฤทธิ์ แต่อายุการใช้งานจะสั้นกว่า โดยอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน สำหรับไซส์จะมี 50 U (ขวดสีแดง) 100 U (ขวดสีฟ้า) และ 200 U (ขวดสีส้ม)

หลาย ๆ คนอาจรู้สึกสงสัยว่า ทำไมโบท็อกเกาหลีที่บทความนี้กล่าวถึงไม่มีชื่อยี่ห้อ Botulax ซึ่งเคยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันอย.ไทยถอดรายชื่อยี่ห้อนี้ออกค่ะ ถ้าใครจะฉีดโบท็อกเกาหลีแล้วเจอยี่ห้อนี้ควรหลีกเลี่ยง เพราะมีเปอร์เซ็นต์สูงว่าอาจเป็นโบท็อกปลอม ที่ตัวยาไม่บริสุทธิ์มากพอ อาจทำให้เกิดอาการแพ้ และติดเชื้อตามมาได้ค่ะ 

ดังนั้นสำหรับใครที่อยากฉีดโบท็อกเกาหลี ควรเลือกยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจากอย.ไทยตามตัวอย่างที่บทความนี้นำมาฝากกันค่ะ ซึ่งจะมีความปลอดภัยมากกว่า และอย่าลืมตรวจสอบโบท็อกของแท้ก่อนการฉีดทุกครั้งนะคะ


โบท็อกเกาหลี ต่างจากโบท็อกประเทศอื่นอย่างไร ? เลือกโบท็อก ยี่ห้อไหนดี ? 

ฉีดโบท็อกเกาหลี

สำหรับใครที่สงสัยว่า ควรฉีดโบท็อกเกาหลี ยี่ห้อไหนดี ? หรือเลือกโบท็อก สัญชาติไหนดี ? ขอตอบว่าขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไข ผลลัพธ์หลังฉีดที่ต้องการ และงบประมาณของแต่ละคนค่ะ ซึ่งการปรึกษาคุณหมอที่มากประสบการณ์ จะช่วยให้คำแนะนำได้อย่างตรงจุด

สำหรับจุดเด่นของโบท็อกเกาหลี เมื่อเปรียบเทียบกับโบท็อกจากประเทศอื่น ๆ จะมีดังนี้

  • โบท็อกเกาหลีจะมีจุดเด่นอยู่ที่การออกฤทธิ์เร็ว ทำให้เห็นผลลัพธ์หลังการฉีดไว
  • โบท็อกเกาหลีมีราคาที่ถูกกว่าโบท็อกจากประเทศอเมริกา อังกฤษ และเยอรมันค่ะ โดยโบท็อกเกาหลีจะมีราคาเริ่มต้น 100 U อยู่ที่ประมาณ 7000 บาท แต่โบท็อกประเทศอื่น ๆ จะเริ่มต้นที่ราคา 16000 บาท 
  • โบท็อกเกาหลีมีตัวเลือกที่หลากหลายมากกว่า โดยยี่ห้อที่ผ่านอย.ไทย จะมีด้วยกันถึง 5 ยี่ห้อจากที่กล่าวไปข้างต้นค่ะ 

ทั้งนี้โบท็อกเกาหลีจะมีข้อด้อยอยู่ที่ระยะเวลาการออกฤทธิ์ที่สั้นกว่าของประเทศอื่น ๆ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4-6 เดือน

สำหรับใครที่อยากฉีดโบท็อกให้ได้ผลลัพธ์เร่งด่วนในงบที่จำกัด โบท็อกเกาหลีถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มาก แต่ถ้ามีกำลังทรัพย์ มีงบไม่จำกัด ส่วนใหญ่คุณหมอจะแนะนำเป็นโบท็อก Allergan จากประเทศอเมริกาค่ะ เพราะเป็นโบท็อกแบรนด์แรก ที่ออกแบบมาเพื่อรักษาริ้วรอย และได้รับการรับรองจาก U.S. FDA ทำให้มีผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก


โบท็อกเกาหลี ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?

ก่อนการฉีดควรปรึกษากับคุณหมอที่มากประสบการณ์ค่ะ ซึ่งคุณหมอจะพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ และจุดที่ต้องการฉีด เพื่อช่วยเลือกโบท็อกเกาหลียี่ห้อที่เหมาะสมกับคุณที่สุด โดยโบท็อกเกาหลีก็มีด้วยกันหลายยี่ห้อ ทำให้สามารถใช้ฉีดได้ในหลายจุดของร่างกาย ดังนี้ 

  • แก้ปัญหาริ้วรอย เช่น ฉีดโบท็อกหางตาและใต้ตา โบท็อกหน้าผาก โบท็อกระหว่างคิ้ว หรือโบท็อกร่องแก้ม
  • ปรับรูปหน้า เช่น โบท็อกลิฟกรอบหน้า และโบท็อกลดกราม
  • เพิ่มมิติให้ใบหน้า เช่น โบท็อกรัดแกนจมูก และโบท็อกปีกจมูก
  • ลดเหงื่อและลดกลิ่นตัว เช่น โบท็อกรักแร้ โบท็อกฝ่ามือ และโบท็อกฝ่าเท้า
  • ลดขนาดกล้ามเนื้อ เช่น โบท็อกน่อง หรือโบท็อกแขน

สรุป

หลาย ๆ คนจะเห็นว่าโบท็อกเกาหลีนั้นมีจุดเด่นอยู่ที่การให้ผลลัพธ์ไว และมีราคาที่ถูกกว่าโบท็อกจากอเมริกา อังกฤษ และเยอรมันหลายเท่าตัว จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับผู้ที่อยากสวย อยากปรับรูปหน้า แต่มีงบประมาณที่จำกัด นอกจากนี้ยังมีหลายยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจากอย.ไทยให้เลือกใช้อีกด้วย 

สำหรับใครที่อยากฉีดโบท็อกเกาหลี อย่าลืมเลือกคลินิกความงามที่ได้รับอนุญาตถูกต้อง ฉีดกับคุณหมอที่มากประสบการณ์ และตรวจสอบตัวโบท็อกว่าเป็นของแท้หรือไม่ก่อนฉีดทุกครั้ง เพียงเท่านี้ทุกคนก็สามารถสวยขึ้นได้ แม้มีงบที่จำกัดแล้วค่ะ