เมื่อพูดถึง “ฟิลเลอร์” สาว ๆ คงมีภาพจำเป็นการเดินเข้าคลินิกเสริมความงาม เพื่อฉีดปรับรูปหน้าในจุดต่าง ๆ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ปากให้อวบอิ่มแบบสายฝอ หรือการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อแก้รอยคล้ำหมีแพนด้า
แต่ความจริงแล้ว คำว่า “ฟิลเลอร์” มีความหมายที่มากกว่านั้นอีกค่ะ! ในบทความนี้จะพาสาว ๆ ไปดูความหมายของฟิลเลอร์กันว่าจริง ๆ แล้ว ฟิลเลอร์คืออะไร ? นิยมฉีดจุดไหน เหมาะกับใครบ้าง ? และควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? ต้องเช็กอะไรบ้างถึงจะปลอดภัย และไม่มีปัญหาตามมาเหมือนที่เห็นในข่าว ไปดูกันเลยค่ะ!
สารบัญ ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ คืออะไร ทำไมถึงได้รับความนิยม ?
อย่างที่ได้เกริ่นไปหน้านี้ ว่าถ้าเราพูดกันถึง “ฟิลเลอร์” ทุกคนคงจะนึกถึงหัตถการยอดฮิตที่อยู่ในคลินิกเสริมความงามหลายแห่ง ใช้ฉีดปรับรูปหน้า หรือแก้ปัญหาริ้วรอย เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก หรือฟิลเลอร์ขมับ ซึ่งจุดนี้ทุกคนเข้าใจถูกแล้วค่ะ
แต่ฟิลเลอร์ยังมีความหมายในทางการแพทย์อีกด้วย ซึ่งจะแตกต่างจากความเข้าใจของเรา ๆ
ดังนั้นอยากจะขอให้ทุกคนลองลืมสิ่งที่เคยรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์ก่อนนะคะ และเราลองมาทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ดูใหม่อีกครั้งกันดีกว่า ไปเริ่มกันเลย
ความหมายที่คนทั่วไปคุ้นเคย
“ฟิลเลอร์” คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิก แอซิดที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการคลินิกเสริมความงาม โดยคุณหมอจะฉีดสารนี้เข้าไปใต้ชั้นผิว เพื่อยกพยุงกระดูก หรือทดแทนโครงสร้างผิวที่ยุบตัวลง รวมถึงฉีดปรับแก้รูปหน้าในจุดต่าง ๆ เพื่อทำให้ใบหน้าดูมีมิติ และมีความสมดุลมากขึ้น เช่น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ ฟิลเลอร์เติมขมับให้เท่ากัน หรือฟิลเลอร์เติมร่องแก้มให้ดูตื้นขึ้น
สาว ๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะเริ่มสงสัยกัน ว่าทำไมต้องเป็นสารไฮยาลูโรนิก แอซิด ?
ก่อนอื่นขอขยายความต่ออีกนิดนะคะ สารไฮยาลูโรนิก แอซิดนี้ เป็นสารตัวเดียวกับที่ร่างกายของเราสามารถผลิตได้เอง และมีอยู่แล้วภายในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น โครงสร้างผิว และกระดูกอ่อน การฉีดเติมเข้าไปจึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ค่ะ
ทำให้มีความปลอดภัยและนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก เพราะฟิลเลอร์สามารถย่อยสลายได้เอง โดยไม่ทิ้งสารตกค้างใด ๆ และยังสามารถฉีดใหม่ได้เรื่อย ๆ อีกด้วยค่ะ
ความหมายทางการแพทย์
ในทางการแพทย์ ฟิลเลอร์ คือ คำเรียกสารที่ฉีดเติมเต็มร่างกายแบบรวม ๆ โดยจะไม่ได้จำกัดอยู่ที่ประเภทสารใดสารหนึ่งค่ะ ซึ่งจะมีด้วยกันหลายประเภท ได้แก่
- ประเภทที่ 1 ไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA: Hyaluronic Acid) อันนี้เป็นฟิลเลอร์ของแท้ที่หลายคนคุ้นเคย และกล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ มีความปลอดภัยมาก สามารถสลายได้หมดในระยะเวลา 6-18 เดือน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์นั้น ๆ รวมถึงยังได้รับการรับรองจากองค์กรอาหารและยา (อย.) และองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) อีกด้วย
- ประเภทที่ 2 คอลลาเจนจากสัตว์ เป็นฟิลเลอร์แบบโบราณ ในปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมแล้วค่ะ เพราะมีผลข้างเคียงไม่พึ่งประสงค์หลายอย่างถ้าเทียบกับประเภทแรก เช่น อาการบวมแดงง่าย หรือบางรายอาจมีอาการแพ้ได้
- ประเภทที่ 3 เติมไขมัน (Transplanted Fat) เป็นหัตถการที่จะดูดไขมันจากส่วนที่ต้องการกำจัดออก แล้วย้ายไปเติมในจุดที่ต้องการปรับแก้ ทำให้ผู้ที่ทำหัตถการนี้จะมีแผลใน 2 ส่วนของร่างกายเลยค่ะ เหมาะกับการฉีดในปริมาณมาก ๆ ประมาณ 10-20 CC ขึ้นไป
- ประเภทที่ 4 Biosynthetic Polymers เช่น ซิลิโคนเหลว, Calcium Hydroxylapatite, และ Polymethylmethacrylate ซึ่งเป็นสารที่ไม่สามารถสลายได้หมดค่ะ มักทำเป็นฟิลเลอร์ปลอม ที่ไม่ผ่านอย. นั่นเอง อันตรายมาก! อย่าหามาฉีดนะคะ ฉีดแล้วหน้าพังไม่รู้ด้วย
สาว ๆ จะเห็นได้ว่า ทั้งไขมัน ไฮยาลูรอนิก แอซิด และฟิลเลอร์ปลอม ก็ถูกวงการวิชาการหรืองานวิจัยในต่างประเทศเรียกรวมกันไว้ด้วยคำว่า “ฟิลเลอร์” ทั้งหมดค่ะ ดังนั้นถ้าเห็นข้อมูลว่า ฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าพัง ขอให้ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ อย่าพึ่งตื่นตะหนกหรือแบนฟิลเลอร์ทุกรูปแบบ อยากให้ลองค่อย ๆ อ่านรายละเอียดก่อนค่ะ ว่าเป็นฟิลเลอร์ประเภทไหนกันแน่
ฟิลเลอร์นิยมฉีดจุดไหน เหมาะกับใคร ?
การฉีดฟิลเลอร์เหมาะกับผู้ที่อยากปรับรูปหน้า แต่ไม่อยากผ่าตัด และไม่อยากพักฟื้นนาน ๆ ค่ะ เพราะหลังการฉีดฟิลเลอร์แล้ว สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เลย และยังเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีอีกด้วย จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่รีบใช้งานหน้า และต้องการผลลัพธ์แบบเร่งด่วน อารมณ์ว่า ฉีดเสร็จแล้วสวยเลย และจะช่วยขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อฟิลเลอร์เข้าที่ 100%
คุณสมบัติเด่น ๆ ของฟิลเลอร์ คือ ช่วยกักเก็บความชื้นในชั้นผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน จึงช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน มีความยืดหยุ่น และดูฉ่ำวาว เรียกได้ว่าทำให้ผิวดูสุขภาพดีแบบสุด ๆ โดยการฉีดฟิลเลอร์ในจุดต่าง ๆ จะสามารถใช้แก้ปัญหาใบหน้า เพื่อเติมเต็มจุดที่ขาด ทำให้องค์รวมใบหน้าดูสวยงามได้ค่ะ จุดที่นิยมฉีด มีดังนี้
- หน้าผาก ฟิลเลอร์หน้าผากช่วยแก้ปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ หรือมีร่องลึกที่หน้าผาก ซึ่งจะทำให้หน้าผากดูโหนกสวย ตรงตามโหงวเฮ้งหน้าผากที่เปิดรับทรัพย์ การค้าขาย และธุรกิจเจริญรุ่งเรือง
- ขมับ ฟิลเลอร์ขมับจะฉีดเพื่อเติมเต็มแอ่งลึกตรงขมับ ช่วยปรับให้ใบหน้าได้สัดส่วน และดูละมุนมากขึ้น เรียกได้ว่าสวยหวานขึ้นจนคนรอบตัวทัก แต่จับโป๊ะไม่ได้ว่าไปทำอะไรมา
- ใต้ตา ฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถใช้ฉีดเพื่อทดแทนกระดูกหรือเนื้อบริเวณใต้ตาที่ยุบตัวจากอายุที่เพิ่มโดยจะช่วยแก้ปัญหาเบ้าตาลึก ริ้วรอยรอบดวงตา และขอบตาดำคล้ำ ปรับผิวใต้ตาให้กลับมาสดใส นอกจากนี้สำหรับสาว ๆ คนไหนที่อยากทำให้ตาดูกลมโต หรือหน้าดูเด็กตลอดไป เหมือนกดปุ่มหยุดเวลาไว้ ยังสามารถฉีดฟิลเลอร์ดอลลี่อายได้อีกด้วยค่ะ
- จมูก ฟิลเลอร์จมูกช่วยปรับรูปทรงจมูกให้เข้าที่เข้าทางมากขึ้น เช่น เพิ่มความคม เน้นสันจมูกให้ชัดขึ้น หรือเชิดปลายจมูกขึ้น แต่มีข้อจำกัดอยู่ว่าเป็นหัตถการที่เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่แล้ว แต่อยากเพิ่มมิติให้ใบหน้าดูเป๊ะขึ้น
- ปาก ถือเป็นจุดฉีดฟิลเลอร์ยอดฮิต โดยฟิลเลอร์ปากสามารถช่วยปรับรูปทรงปากให้สมดุล สร้างขอบปากให้ชัด หรือเพิ่มเนื้อริมฝีปาก เหมาะกับคนที่ต้องการเปลี่ยนปากบาง ๆ ให้อวบอิ่มและเซ็กซี่ทันทีเหมือนเสกได้ รวมถึงยังช่วยแก้ไขปัญหาปากแห้ง ทาลิปแล้วตกร่องอีกด้วย
- ร่องแก้ม การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะช่วยเติมเต็มร่องแก้มลึกให้ดูตื้นขึ้น ริ้วรอยร่องแก้มจางลง ถือเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่นิยมฉีด เพราะช่วยปรับให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์ขึ้นค่ะ
- คาง ฟิลเลอร์คางช่วยแก้ปัญหาคางตัด คางสั้น คางถอย และหน้ากลมได้ ถือเป็นตัวช่วยปรับใบหน้าให้สมมาตร และใบหน้าเรียวสวยได้รูปทรง V Shape
- ปรับสภาพผิว ฟิลเลอร์มีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้น และช่วยให้คอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวยึดเกาะกันได้ดีขึ้น จึงทำให้ผิวดูเต่งตึง มีความยืดหยุ่น และดูอิ่มน้ำ การฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิวสามารถฉีดได้ทั่วใบหน้า เพื่อลดเลือนริ้วรอย และกระชับรูขุมขนค่ะ หรือในบางรายอาจฉีดที่หลังมือ เพื่อแก้ปัญหามือเหี่ยว และมีเส้นเลือดปูดก็ได้
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? เช็กลิสต์สิ่งที่ควรดู
หลังจากเห็นประโยชน์ของฟิลเลอร์ เชื่อว่า คงมีสาว ๆ หลายคนที่สนใจ และอยากจะเดินเข้าคลินิกไปฉีดหน้ากัน แต่ช้าก่อนค่ะ! เรามาลองดูสิ่งที่ต้องเช็กก่อนฉีดฟิลเลอร์กัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัย เพราะคงไม่มีใครอยากฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าพังเหมือนที่เคยเห็นในข่าว หรือต้องมาตามแก้ปัญหาทีหลัง
- เลือกคลินิกเสริมความงามที่น่าเชื่อถือ คลินิกต้องผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะมีใบอนุญาตแปะไว้ที่ด้านหน้าคลินิก ยิ่งคลินิกไหนมีหลายสาขาก็จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือค่ะ เพราะแสดงว่าลูกค้าให้ความไว้ใจมากจนกิจการรุ่งเรืองสุด ๆ นอกจากนี้ควรเลือกคลินิกที่ดูสะอาด และตั้งอยู่ในสถานที่ที่เดินทางสะดวก เช่น ห้างสรรพสินค้า
- คุณหมอที่มากประสบการณ์ โดยส่วนใหญ่คุณหมอเหล่านี้จะมีเคสรีวิวเป็นจำนวนมาก และมีใบรับรอง (Certification) การเทรนนิงที่เกี่ยวข้องกับการฉีดฟิลเลอร์ค่ะ ซึ่งถ้าคุณหมอมีประสบการณ์มาก โอกาสผิดพลาดก็ยิ่งน้อยลง นอกจากนี้อย่าลืมเอาชื่อคุณหมอไปเช็กกับเว็บไซต์แพทย์สภาด้วยนะคะ ว่าหน้าตาและชื่อของคนที่เราพบ ตรงกับบนเว็บไซต์หรือไม่
- รีวิวที่ดี คือ รีวิวที่อัปเดตเป็นปัจจุบันค่ะ ถ้ารีวิวล่าสุดคือเมื่อหลายปีก่อน แนะนำให้หนีไปนะคะ รวมถึงรูปแบบรีวิวควรมีทั้งรูปภาพและคลิปวิดีโอค่ะ เพราะรูปภาพแต่งง่าย แต่วิดีโอปลอมแปลงได้ยากกว่า นอกจากนี้ถ้ารีวิวอยู่ในสื่อกลางหรือแหล่งที่ไม่สามารถลบออกได้ก็ยิ่งดี เช่น Facebook Fanpage หรือ Pantip
- ฟิลเลอร์ของแท้ เราตรวจสอบทั้งคลินิกและคุณหมอกันมาขนาดนี้จนแทบจะเป็นนักสืบกันอยู่แล้ว แน่นอนว่าเราก็ต้องเช็กฟิลเลอร์ด้วยเหมือนกันค่ะ โดยก่อนฉีดควรให้คุณหมอแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้า และขอกล่องกลับบ้านหรือจะถ่ายรูปเก็บไว้ก็ได้ค่ะ
วิธีการเช็กฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อจะมีความแตกต่างกันออกไป แต่หลัก ๆ แล้ว ต้องมีเลขทะเบียนอย. เอกสารกำกับภาษาไทย เลข lot. ในจุดต่าง ๆ ของฟิลเลอร์ตรงกัน และสามารถโทรเช็กกับบริษัทที่นำเข้ามาได้ค่ะ
สรุป
หลาย ๆ คนคงจะได้คำตอบไปแล้วว่า ฟิลเลอร์คืออะไร ? สำหรับฟิลเลอร์รูปแบบที่ปลอดภัยและนิยมใช้กันจะเป็นฟิลเลอร์ประเภทกรดไฮยาลูโรนิก แอซิด ซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ และช่วยให้ผิวกระชับ รวมถึงสามารถปั้นแต่งเป็นรูปทรงที่ต้องการได้ค่ะ จึงนิยมฉีดในจุดต่าง ๆ บนใบหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากเนื้อหรือกระดูกยุบตัว รวมถึงเพื่อบูสต์ให้ผิวดูสุขภาพดีแบบเร่งด่วนอีกด้วย
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่อยากฉีดฟิลเลอร์ และได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ สวยทันทีหลังฉีด ไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียงตามมา ควรเลือกคลินิกเสริมความงามที่น่าเชื่อถือ คุณหมอที่มีประสบการณ์ และตรวจสอบฟิลเลอร์ก่อนฉีดทุกครั้งนะคะ