เคยไหม ? เวลาเห็นคนรอบตัวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาแล้วดูปังดูสวยจนอยากทำตาม แต่ไม่ว่าจะถามกี่คน ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็ไม่เคยเท่ากันเลย หรือลองหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ค่าบริการฟิลเลอร์ใต้ตาในแต่ละคลินิกก็ต่างกัน จนเกิดคำถามว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคามาตรฐานอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่ ?
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในนั้น ขอให้มารวมกันตรงนี้ค่ะ บทความนี้จะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน ว่าทำไมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาค่าบริการในแต่ละคลินิกความงามถึงต่างกัน ? พร้อมแนะนำ 4 ยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตายอดนิยม แต่ละรุ่นราคาเท่าไหร่ ?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ ? ทำไมแต่ละคลินิกราคาต่างกัน ?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ ?
ทำไมค่าบริการในคลินิกความงามแต่ละแห่ง ถึงถูกแพงไม่เท่ากัน ?
เราจะพาทุกคนไปดูปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากันค่ะ ซึ่งมีดังนี้
- เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา การแก้ปัญหาใต้ตาให้ดูเป็นธรรมชาติ ในบางเคสจำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์หลายชนิดร่วมกันค่ะ เช่น การใช้ฟิลเลอร์เนื้อแน่นฉีดชั้นลึก เพื่อทดแทนกระดูกใต้ตาที่ยุบตัวมาก ๆ ร่วมกับการใช้ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดเก็บรายละเอียดบริเวณผิวชั้นตื้น
- ยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์แต่รุ่นจะมีราคาต่างกันค่ะ ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีการผลิต ชนิดของฟิลเลอร์ คุณสมบัติเด่น และอายุการใช้งาน แอบกระซิบว่า ต่อให้ใช้ยี่ห้อเดียวกัน แต่รุ่นต่างกัน ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็จะต่างกันค่ะ
- ปริมาณฟิลเลอร์ โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้ประมาณ 2-4 CC ต่อใต้ตาทั้ง 2 ข้างค่ะ เมื่อใช้ปริมาณ CC เพิ่มขึ้น ทำให้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
- ค่ามือหมอ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ปลอดภัย จะต้องฉีดกับคุณหมอที่มากประสบการณ์ และผ่านเคสมาเป็นจำนวนมากค่ะ ทำให้การทำหัตถการมีค่าประสบการณ์ของคุณหมอรวมอยู่ด้วย เหมือนกับที่เราซื้อสินค้า Handmade ที่ต้องจ่ายค่าฝีมือ ไม่ใช่แค่ค่าวัสดุเพียงอย่างเดียวนั่นเอง
นอกจากนี้ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยเทคนิคขั้นสูง เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตาดอลลี่อาย ค่ามือหมออาจเพิ่มขึ้นอีกด้วย เพราะไม่ใช่คุณหมอทุกท่านที่จะรับเคสเหล่านี้ - โปรโมชันการตลาด บางคลินิกความงามอาจจัดโปรโมชันส่งเสริมการขายในช่วงเทศกาล หรือการให้ส่วนลดค่าบริการแลกกับการใช้รูปภาพของคนไข้เป็นเคสรีวิว ทำให้ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาลดลงไปด้วยค่ะ
จะเห็นได้ว่า มีหลายปัจจัยเลยค่ะ ที่สามารถส่งผลต่อราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้ แต่ถ้าทำหัตถการในคลินิกความงามชั้นนำ ราคาฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะไม่ได้แตกต่างกันมากค่ะ โดยฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคามาตรฐานของแต่ละรุ่นและยี่ห้อ มีรายละเอียดดังนี้
1. ยี่ห้อ Restylane ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา
ฟิลเลอร์ Restylane เป็นยี่ห้อจากประเทศสวีเดน ถือเป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อที่เก่าแก่และใช้งานมาอย่างยาวนานที่สุดค่ะ โดยจะใช้เทคโนโลยีการผลิตที่สำคัญอย่าง NASHA Techology และ OBT Technology ทำให้ได้ฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติหลากหลาย มีหลายเนื้อให้เลือกใช้งาน รวมถึงยังมีความยืดหยุ่น และคงตัวได้ดี จึงสามารถฉีดได้ในหลายตำแหน่งของใบหน้า
โดยฟิลเลอร์ Restylane รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และจุดเด่น มีรายละเอียดดังนี้
- Restylane Classic (ราคา 14,000 บาท / 1 CC) ฟิลเลอร์เนื้อแน่น สามารถใช้เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึก สำหรับใครที่มีผิวบางเป็นทุนเดิม สามารถใช้รุ่นนี้ได้ค่ะ อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Perlane Lyft (ราคา 13,000 บาท / 1 CC) ฟิลเลอร์เนื้อแน่น มียาชาเป็นส่วนผสม ฉีดแล้วไม่ฟู มีจุดเด่นอยู่ที่มีความคงตัวสูง ทำให้สามารถคงรูปได้ดีที่สุดค่ะ อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Defyne (ราคา 14,000 บาท / 1 CC) ฟิลเลอร์เนื้อแน่นปานกลาง มีความยืดหยุ่น และอุ้มน้ำได้ดี อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Restylane Vital (ราคา 14,000 บาท / 1 CC) ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด และเกลี่ยง่ายค่ะ นิยมใช้ฉีดเก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นตื้น เพื่อให้ผิวดูเรียบเนียน และดูเป็นธรรมชาติหลังฉีด จนคนอื่นดูไม่ออกว่าไปทำอะไรมา อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Vital Light (ราคา 13,000 บาท / 1 CC) ฟิลเลอร์รุ่นที่มีเนื้อละเอียดมากที่สุด สามารถใช้ฉีดร่องใต้ตาชั้นบน ปรับให้ผิวดูเรียบเนียน หรือเก็บรายละเอียดริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณใต้ตาในผิวชั้นตื้น นิยมเป็นอย่างมากในเคสที่ผิวบาง ๆ อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
2. ยี่ห้อ Juvederm ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา
ฟิลเลอร์ Juvederm จากประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นอีกยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในคลินิกความงามค่ะ โดยมีเทคโนโลยีในการผลิตที่สำคัญ คือ เทคโนโลยี Vycross Technology ทำให้โมเลกุลของฟิลเลอร์ยึดเกาะแน่น หลังฉีดผิวจะดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ และเด่นในเรื่องการยกกระชับ และเทคโนโลยี Hylacross Technology ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี รวมถึงยังมีค่าอุ้มน้ำสูง จึงมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น
โดยฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และจุดเด่น มีรายละเอียดดังนี้
- Juvederm Voluma (ราคา 14,000 บาท / 1 CC) ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง และสามารถอุ้มน้ำได้ดี เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาชั้นลึก หลังฉีดจะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Juvederm Volux (ราคา 18,000 บาท / 1 CC) ฟิลเลอร์เนื้อแน่น สามารถคงรูปได้ดี แต่มีความยืดหยุ่นสูงค่ะ นิยมฉีดฟิลเลอร์ในชั้นลึก เพื่อเสริมกระดูกใต้ตาที่ยุบตัว อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
- Juvederm Volite (ราคา 12,000 บาท / 1 CC) ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด นิยมฉีดใต้ตาในผิวชั้นตื้น เพื่อเก็บรายละเอียด เป็นอีกรุ่นที่เหมาะกับคนที่ผิวบาง แต่ไม่มากเกินไป อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
3. ยี่ห้อ Belotero ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา
ฟิลเลอร์ Belotero หรือที่หลาย ๆ คนจะคุ้นเคยกับชื่อ Colorful Filler เพราะตัวกล่องแต่ละรุ่นจะใช้สีสันที่สดใสมาก เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM Technology ทำให้ได้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อหลากหลาย มีความยืดหยุ่น และคงตัวได้ดี สามารถฉีดแก้ปัญหาที่เกิดจากกระดูกบนใบหน้าทรุดตัว หรือฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับโครงสร้างใบหน้า
โดยฟิลเลอร์ Belotero รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และจุดเด่น มีรายละเอียดดังนี้
- Belotero Volume (ราคา 11,000 บาท / 1 CC) ฟิลเลอร์เนื้อแน่น หลังฉีดฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง เหมาะกับการฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Belotero Soft (ราคา 12,000 บาท / 1 CC) ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับฉีดเก็บรายละเอียดใต้ตาในชั้นตื้น เพื่อให้ผิวดูเรียบเนียน อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Belotero Revive (ราคา 14,000 บาท / 1 CC) ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่มีส่วนประกอบทั้ง HA และกลีเซอรอล จึงช่วยเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวได้ดี เหมาะกับงานผิวโดยเฉพาะค่ะ สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะนิยมใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
4. ยี่ห้อ Flore ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา
ฟิลเลอร์ Flore คือ ยี่ห้อฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี ใช้เทคโนโลยี HCCL™ (Highly Completed Cross-Linking) Technology เป็นฟิลเลอร์แบบ Biphasic Filler ที่สาร HA มีทั้งแบบ Cross-linked และ Non Cross-linked อยู่ร่วมกัน ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่ยืดหยุ่น คงรูปได้ดี และสลายตัวช้าลง นอกจากนี้ยังมี PP-Process (Particle Plastic Proces) ที่ทำให้โมเลกุลของฟิลเลอร์มีขนาดเท่ากัน เวลาฉีดจะปั้นทรงได้ง่าย และสลายตัวอย่างสม่ำเสมอ
โดยฟิลเลอร์ Flore รุ่นที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา และจุดเด่น มีรายละเอียดดังนี้
- Flore AQUA-S (ราคา 9,900 บาท / 1 CC) ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด และมีโมเลกุลขนาดเล็ก นิยมฉีดเก็บรายละเอียดริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณรอบดวงตา อยู่ได้นาน 6 เดือน
สรุป
หลังจากอ่านบทความนี้จบ ทุกคนคงจะได้คำตอบแล้วว่า การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ ? นั้นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณ CC ที่ฉีด โปรโมชัน หรือยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือก
สำหรับใครที่อยากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคามาตรฐาน และผลลัพธ์ปังหลังฉีด แนะนำให้ปรึกษากับคุณหมอที่มากประสบการณ์ ซึ่งจะช่วยเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว และงบประมาณของแต่ละคนค่ะ รวมถึงควรเลือกคลินิกความงามที่น่าเชื่อถือ และศึกษาวิธีเช็กฟิลเลอร์ของแท้แต่ละยี่ห้อ
Leave a Reply