ฟิลเลอร์แก้มส้ม

ฟิลเลอร์แก้มส้ม วิธีลดอายุ สร้างมิติใหม่ให้แก้มสวย ดูอ่อนเยาว์ ไม่แบนราบ

ฟิลเลอร์แก้มส้ม

ฟิลเลอร์แก้มส้ม นับเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยม สำหรับผู้ที่ต้องการลดอายุและเพิ่มมิติให้กับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวามากขึ้น เพราะไม่เพียงแต่ช่วยให้แก้มดูเต่งตึงและเปล่งปลั่งเท่านั้น ยังส่งผลดีต่อรูปหน้าโดยรวม ทำให้ดูมีเสน่ห์ สดใส มีความมั่นใจมากขึ้น

หากใครกำลังสนใจฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ในบทความนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับ ความหมายของการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ข้อดี-ข้อเสีย ความปลอดภัย จำนวน CC ยี่ห้อฟิลเลอร์ ผู้ที่เหมาะกับการฉีด ประโยชน์ของแก้มส้ม ผลข้างเคียง และวิธีการดูแลตัวเองหลังทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

สารบัญ ฟิลเลอร์แก้มส้ม


ฟิลเลอร์แก้มส้ม กุญแจสู่ความอ่อนเยาว์และมีมิติของใบหน้า คืออะไร ?

ฟิลเลอร์แก้มส้ม คือ

ฟิลเลอร์แก้มส้ม คือ การฉีดฟิลเลอร์ประเภทกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic acid) ที่มีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำได้ดี ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เต่งตึง เข้าไปบริเวณแก้มหรือพวงแก้ม เพื่อช่วยเติมเต็มแก้มให้ดูเต็มอิ่ม มีลักษณะนูนโค้งคล้ายผลส้ม เมื่อมองด้านข้างจะมี Ogee curve หรือ S curve คือเป็นตัว S ด้านข้างใบหน้า ส่งผลให้โหนกแก้มโค้งมนสวย มีมิติ หน้าไม่ดูแบนหรือหย่อนคล้อยลงมา และดูเด็กลง


ฟิลเลอร์แก้มส้ม กับ เรื่อง Ogee Curve 

Ogee Curve

Ogee curve คือ ลักษณะโค้งมนคล้ายตัว S ของใบหน้า โดยเริ่มโค้งขึ้นจากบริเวณใต้ตา ผ่านบริเวณโหนกแก้ม และโค้งลงบริเวณแก้ม ลักษณะโค้งมนนี้ จะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และมีมิติมากขึ้น

Ogee curve มีความสำคัญต่อความสวยงามของใบหน้า โดยหากใบหน้าขาด Ogee curve ไป ใบหน้าจะดูแบน ไม่สมดุล และดูแก่กว่าวัย

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม เป็นการฉีดฟิลเลอร์บริเวณแก้ม เพื่อให้ใบหน้ามี Ogee curve ที่สวยงาม โดยแพทย์จะฉีดฟิลเลอร์บริเวณกลางหน้าหรือพวงแก้ม (Midface Filler) เพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติและอ่อนเยาว์มากขึ้น


ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

  • ใช้เวลาทำไม่นาน ไม่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้น
  • เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ภายใน 2 สัปดาห์ 
  • ไม่ทำให้เกิดแผลหรือรอยแผลเป็น ไม่ต้องกังวลเรื่องความสวยงามหลังจากการฉีด
  • ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ดูกลมกลืน ไม่หลอกตา 
  • อยู่ได้นาน 12-18 เดือน และสามารถกลับมาเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ ตามความต้องการ

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

  • อาจเกิดอาการบวมแดง เขียวช้ำบริเวณที่ฉีดในช่วงแรก ซึ่งจะค่อย ๆ ยุบลงภายใน 1-2 สัปดาห์
  • ผลลัพธ์อาจไม่คงอยู่ตลอดไป อาจต้องมีการฉีดซ้ำ เพื่อคงผลลัพธ์ไว้

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง เพื่อประเมินสภาพใบหน้าและวางแผนการทำอย่างเหมาะสม 


ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ใช้กี่ CC ยี่ห้อไหนดี ? 

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม โดยทั่วไปจะใช้ปริมาณข้างละ 1CC และยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่นิยมใช้สำหรับการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ได้แก่ 

  • Restylane Perlane lyft ฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดน เนื้อแน่น ผลิตด้วยเทคโนโลยี NASHA Technology ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีดยกกระชับแก้มที่หย่อนคล้อยให้ดูมีมิติ อยู่ได้นาน 12 เดือน 
  • Definisse Core ฟิลเลอร์สัญชาติอิตาลี เนื้อแน่น ผลิตด้วยเทคโนโลยี XTR™ Technology โดดเด่นในด้านการทำให้ Hyaluronic Acid สานกันเป็นร่างแห จึงสามารถช่วยในการยกพยุง และปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการฉีดเสริมกระดูก ปรับรูปหน้า เติมแก้มส้ม อยู่ได้นาน 18 เดือน 

ทั้งนี้  แพทย์ที่มีประสบการณ์จะเป็นผู้ประเมินจำนวน CC และ ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีด ตามสภาพผิวและความต้องการของลูกค้าแต่ละเคสอย่างเหมาะสมค่ะ 


รู้ก่อนสวย! ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม 

ผู้ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ได้แก่

  • ผู้ที่มีปัญหา แก้มแบน แก้มตอบ หน้าดูแก่ลง หน้าดูเหนื่อย ไม่สดใส
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย เกิดร่องลึกใต้ตา ร่องแก้ม ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่กระชับ ไม่อ่อนเยาว์
  • ผู้ที่อยากปรับรูปหน้า ให้ใบหน้าอิ่มเอิบมากขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มมิติให้ใบหน้า
  • ผู้ที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้ง

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ดีอย่างไร ? 

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม แล้วมีแก้มส้มดีต่อใบหน้าในด้านต่าง ๆ ดังนี้

  • ด้านความงาม 
    • ช่วยทำให้ใบหน้าดูอิ่ม กลม กระชับ ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย สดใส น่ามองมากยิ่งขึ้น
    • ช่วยทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น โดยบริเวณแก้มจะมีลักษณะโค้งนูนขึ้นมาคล้ายกับผลส้ม เมื่อมองด้านข้างใบหน้าจะเห็น curve สวยเป็นรูปตัว S ซึ่งทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
    • ช่วยปกปิดร่องลึกบริเวณแก้ม ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น
  • ด้านโหงวเฮ้ง ตามศาสตร์จีน 
    • เชื่อว่าคนที่มีแก้มส้ม เต็มอิ่ม ไม่ตอบหรือยุบลง ไม่หย่อนคล้อย มักจะมีวาสนาดี หยิบจับอะไรเป็นเงินเป็นทอง ประสบความสำเร็จในชีวิต
  • ด้านสุขภาพ 
    • ช่วยทำให้กล้ามเนื้อบริเวณแก้มกระชับ ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่หย่อนคล้อย ช่วยชะลอในการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
    • ช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูอ่อนหวาน น่ารัก น่าเข้าหา

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ช่วยแก้ปัญหาอะไรบนใบหน้า ? 

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ของใบหน้าได้ดังนี้

  • แก้มตอบ เกิดจากการที่ไขมันใต้ผิวหนังลดลง ส่งผลให้แก้มยุบลง หน้าดูแก่ลง การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะช่วยเติมเต็มให้บริเวณแก้ม ดูอิ่ม กลม กระชับ ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
  • หน้าดูเหนื่อย เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณแก้มหย่อนคล้อย ส่งผลให้หน้าดูเหี่ยวย่น ไม่สดใส การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณแก้ม ทำให้หน้าดูสดใสขึ้น
  • หน้าดูแก่ เกิดจากกระดูกแก้มที่ยุบตัวลง ส่งผลให้ใบหน้าดูเหลี่ยม ไม่อ่อนหวาน การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะช่วยเติมเต็มกระดูกแก้ม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนหวานขึ้น
  • ร่องแก้มลึก เกิดจากการที่กล้ามเนื้อบริเวณแก้มหย่อนคล้อย ส่งผลให้เกิดร่องลึกบริเวณแก้ม การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะช่วยเติมเต็มร่องแก้ม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น

นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งใบหน้าให้ดูดียิ่งขึ้นอีกด้วย โดยโหงวเฮ้งใบหน้าที่ดีตามศาสตร์จีน จะต้องมีลักษณะแก้มที่เต็มอิ่ม ไม่ตอบหรือยุบลง ไม่หย่อนคล้อย ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเองก็สามารถช่วยปรับแก้โหงวเฮ้งใบหน้าให้ดูดีขึ้นได้


โหงวเฮ้งแก้มดีขึ้นได้ ด้วยการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม 

โหงวเฮ้งแก้ม หมายถึง ลักษณะของแก้ม ที่เกี่ยวข้องกับโชคลาภ ความสำเร็จในชีวิต ตามศาสตร์จีน เชื่อว่าคนที่มีแก้มลักษณะดี มักจะมีวาสนาดี หยิบจับอะไรเป็นเงินเป็นทอง ประสบความสำเร็จในชีวิต

โหงวเฮ้งแก้ม

ลักษณะแก้มที่ดีตามโหงวเฮ้ง มีดังนี้

  • แก้มเต็มอิ่ม ไม่ตอบหรือยุบลง ไม่หย่อนคล้อย แสดงถึงเป็นคนมีทรัพย์สมบัติ มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ
  • แก้มมีเนื้อมีหนัง ไม่แห้งผาก แสดงถึงเป็นคนมีสุขภาพแข็งแรง มีอายุยืนยาว
  • แก้มมีสีสันสดใส ไม่คล้ำหรือหมองคล้ำ แสดงถึงเป็นคนมีจิตใจแจ่มใส ร่าเริง มีความสุข
  • แก้มมีรอยบุ๋ม (ลักยิ้ม) แสดงถึงเป็นคนมีเสน่ห์ เป็นที่รักใคร่ของผู้คน

นอกจากนี้ ตำราโหงวเฮ้งยังแบ่งตำแหน่งของแก้มออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่

  • ส่วนบนของแก้ม หมายถึง ตำแหน่งของโชคลาภ
  • ส่วนกลางของแก้ม หมายถึง ตำแหน่งของสติปัญญา
  • ส่วนล่างของแก้ม หมายถึง ตำแหน่งของสุขภาพ

ดังนั้น หากต้องการมีโหงวเฮ้งที่ดี ควรดูแลรักษาแก้มให้มีลักษณะที่ดีดังที่กล่าวมาข้างต้น สามารถทำได้โดยการดูแลตัวเองตามธรรมชาติ เช่น ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบุหรี่ หรือใช้หัตถการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ซึ่งจะช่วยให้แก้มดูอิ่ม กลม กระชับ อ่อนกว่าวัยได้ทันที


ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม อันตรายไหม ? มีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย หากฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงด้านการปรับรูปหน้า และเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ ได้มาตรฐานผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA)

อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม อาจมีความเสี่ยงและข้อควรระวังอยู่บ้าง เช่น

  • อาจเกิดการแพ้ฟิลเลอร์ได้ ซึ่งพบได้น้อยมาก อาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ อาการคัน บวมแดง ปวด บริเวณที่ฉีด ในกรณีที่มีอาการแพ้รุนแรง อาจเกิดอาการหายใจลำบาก ความดันโลหิตต่ำ ช็อก
  • อาจเกิดการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์ ซึ่งอาจเกิดจากดูแลตัวเองไม่ดี ทำให้เกิดแรงกระแทกหรือการเคลื่อนไหวของใบหน้า ในกรณีนี้อาจต้องฉีดแก้ไขอีกครั้ง
  • อาจเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่พบได้น้อยมาก เช่น การอักเสบ ติดเชื้อ รอยแผลเป็น

ทั้งนี้ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นข้างต้น สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการ :

❌ ไม่เลือกฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม กับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน 
❌ ไม่ฉีดฟิลเลอร์หิ้ว ฟิลเลอร์ปลอม ที่ไม่ใช่สาร HA ไม่ผ่าน อย.
❌ ไม่ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ที่มีราคาถูกกว่าปกติมาก ๆ เพราะเสี่ยงเป็นฟิลเลอร์ปลอม
❌ ไม่ฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า หมอเถื่อน พยาบาล ผู้ช่วย หรือใครที่ไม่ใช่แพทย์จริง ไม่มีประสบการณ์
✅ ดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด


ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มแล้วจะทำให้หน้าดูอ้วนไหม ? 

สำหรับคนที่กังวลว่าฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มแล้วจะทำให้หน้าดูอ้วน ขอบอกว่าเลิกกังวลไปได้เลยค่ะ การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ไม่ได้ทำให้หน้าดูอ้วนอย่างที่คิด ในทางกลับกัน จะช่วยให้แก้มโค้งมนสวย มีมิติ มี Ogee curve หรือ S curve ทำให้หน้าไม่ดูแบนหรือหย่อนคล้อย พร้อมทั้งยังเพิ่มความฉ่ำให้ผิวหน้าอีกด้วย     


การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

  • หลีกเลี่ยงยาและอาหารเสริมบางชนิด ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดเช่น แอสไพริน หรืออาหารเสริมอย่าง โอเมก้า-3, วิตามิน E ควรหลีกเลี่ยงก่อนการฉีดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
  • ดูแลสุขภาพผิวให้สะอาดและอยู่ในสภาพดีจะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ 
  • หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ผิวหน้าที่รุนแรงก่อนการฉีด
  • งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
  • พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวและร่างกายอยู่ในสภาพที่ดีสำหรับการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม 

วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม ข้อนี้สำคัญไม่ควรพลาด!

  • หลีกเลี่ยงการกด บีบ นวด บริเวณที่ฉีด เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว
  • หลีกเลี่ยงการขยับใบหน้ามาก ๆ ในช่วง 2-3 วันแรก
  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนหรือทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดเหงื่อออกมาก ในช่วง 2-3 วันแรก
  • รับประทานอาหารและดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
  • รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดอาการบวมแดงและอักเสบ

สรุป

ฟิลเลอร์แก้มส้ม นับเป็นวิธีการที่ช่วยให้หน้าดูอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวาได้อย่างรวดเร็ว สามารถแก้ไขปัญหาบนใบหน้าได้หลายส่วนในการฉีดเพียงครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาแก้มตอบ หน้าแบน หน้าดูเหนื่อย หน้าดูแก่ ร่องแก้มลึก 

อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้วิธีนี้ควรคำนึงถึงความเหมาะสมและพิจารณาอย่างรอบคอบถึงคุณภาพของฟิลเลอร์ที่ใช้ ประสบการณ์ของแพทย์ รวมถึงการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นไปตามความคาดหวัง มีความปลอดภัย