รวมประโยชน์ดี ๆ ของวิตามินซีดีต่อผิวยังไง ? สามารถรับจากทางไหนได้บ้าง ?

เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่า วิตามินซีไม่เพียงช่วยเรื่องหวัด สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยในเรื่องความสวยความงามอีกด้วย !

แม้ว่าหลายคนจะเข้าใจความสำคัญของวิตามินซีอยู่แล้ว แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าวิตามินซีนั้นคืออะไร ? มีความสำคัญต่อร่างกายและผิวพรรณอย่างไร ? ต้องมีวิตามินซีมากแค่ไหนถึงเพียงพอต่อร่างกาย ? สามารถหาคำตอบได้ในบทความนี้ค่ะ


วิตามินซี ดีอย่างไร ? ทำไมถึงสำคัญต่อร่างกาย ?

วิตามินซี หรือ กรดแอสคอร์บิก คือ วิตามินชนิดละลายน้ำที่จำเป็นต่อร่างกายค่ะ มีหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันต่อร่างกายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลให้เราไม่ป่วยหรือเป็นหวัดได้ง่าย ๆ อีกทั้งมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมและฟื้นฟูการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ ช่วยทำให้แผลสมานและหายเร็วขึ้น

ซึ่งถ้าหากร่างกายได้รับวิตามินซีไม่พอ อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้หลายอย่าง เช่น ป่วยง่ายขึ้น มีอาการอ่อนเพลีย หงุดหงิดและจัดการความเครียดไม่ได้ มีเลือดออกตามไรฟันขณะแปรงฟัน แผลหายช้า หรือมีรอยช้ำตามร่างกายได้ง่าย ซึ่งถือเป็นสัญญาณการขาดวิตามินซีที่ค่อนข้างรุนแรงค่ะ

สรุปได้ว่าวิตามินซีมีความสำคัญต่อร่างกายอย่างมาก เพื่อน ๆ ควรได้รับวิตามินซีที่เพียงพอ เพื่อสุขภาพที่ดีและแข็งแรง ไม่ป่วยง่ายค่ะ


วิตามินซีดีต่อผิวอย่างไร ?

วิตามินซีมีบทบาทสำคัญต่อผิวมากมาย เพราะวิตามินซีช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือด ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียน จุดด่างดำจางลง ทำให้ผิวกระจ่างใสยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังดีต่อผิวในอีกหลาย ๆ อย่าง เช่น

  • ช่วยเสริมร้างคอลลาเจนให้กับผิว ทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย และเปล่งปลั่งมากขึ้น
  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ป้องกันผิวไม่ให้แห้งหรือมันจนเกินไป ผิวมีความยืดหยุ่นไม่แห้งกร้าน
  • ช่วยรักษาบาดแผล หรือรอยแผลสดต่าง ๆ
  • ช่วยรักษาและดูแลผิว รวมทั้งกระดูกอ่อน
  • ช่วยลดริ้วรอยต่าง ๆ และรอยตีนกาบนใบหน้า
  • ช่วยปรับสีผิวให้เสมอ
  • ช่วยป้องกันริ้วรอยก่อนวัย
  • ช่วยดูแลผิวพรรณจากปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ลดปัญหาขอบตาดำ ลดเลือนจุดด่างดำและรอยแดงบนใบหน้า

ด้วยข้อดีต่อไปนี้จึงไม่แปลกที่ปัจจุบันจะนิยมนำวิตามินซี มาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ทั้งหลาย เพื่อผิวพรรณที่สวย เนียนกระจ่างใส ดูสุขภาพดีของสาว ๆ ค่ะ


ร่างกายควรได้รับวิตามินซี 1,000 มล. เพราะอะไร ?

ร่างกายควรได้รับวิตามินซีอย่างน้อย 1,000 มล. เพื่อช่วยเสริมภูมิต้านทานร่างกาย เสริมสร้างคอลลาเจนให้แข็งแรง ซึ่งปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายต้องการต่างกันไปในแต่ละคน แต่ไม่ควรได้รับเกินวันละ 1,000 – 2,000 มิลลิกรัม เพราะอาจส่งผลเสียมากกว่าส่งผลดีต่อร่างกายได้ ทางที่ดีเพื่อน ๆ ควรปรึกษาหมอให้มั่นใจก่อนรับวิตามินในปริมาณมาก ๆ ค่ะ


4 วิธีรับวิตามินสู่ร่างกาย แบบไหนเร็วที่สุด ?

แม้เราจะรู้ว่าวิตามินซีสำคัญต่อร่างกายแค่ไหน แต่ร่างกายไม่สามารถผลิตวิตามินซีได้เอง เราจึงต้องรับวิตามินซีจากแหล่งอื่น แต่วิธีไหนจะเร็วและดีที่สุด ? เราขอนำเสนอ 4 วิธีที่เพื่อน ๆ สามารถนำไปใช้ได้ง่าย ๆ สามารถทำได้ทุกวันค่ะ

วิตามินซีจากผักผลไม้

เราสามารถรับวิตามินซีผ่านการกินผักและผลไม้ได้ค่ะ เป็นวิธีที่ง่ายและมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะสารอาหารในผลไม้ไม่ได้มีเพียงวิตามินซีเท่านั้น ยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย เช่น ไฟเบอร์ โปรตีน แม้จะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่อาจได้รับวิตามินซีไม่พอและเห็นผลลัพธ์ช้าค่ะ 

ซึ่งผักผลไม้ที่วิตามินซีสูง สามารถกินได้ในทุกวัน เช่น พริกหวาน ผักคะน้า ฝรั่ง ส้ม มะละกอ บร็อกโคลี กีวี่ เป็นต้น

วิตามินซีจากอาหารเสริม

อาหารเสริมเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มวิตามินซีง่าย มีปริมาณวิตามินซีที่ผ่านการคำนวณมาแล้ว แนะนำให้กินเสริมกับผักผลไม้ เพื่อยังได้รับประโยชน์จากผักผลไม้ และได้รับวิตามินซีที่เพียงพอต่อความต้องการด้วย ข้อควรระวังคือควรอ่านฉลากก่อนบริโภคทุกครั้ง และเลือกซื้ออาหารเสริมวิตามินซีที่มี อย. จากร้านค้าที่น่าเชื่อถือเท่านั้นค่ะ

วิตามินซีเซรั่มทาผิว

เซรั่มทาผิวเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะได้รับวิตามินซีเช่นกัน มีเนื้อบางเบา ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน ช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใส ผิวเต่งตึงป้องกันริ้วรอยค่ะ แต่วิธีนี้จะมุ้งเน้นไปที่ผิวมากกว่าเสริมภูมิคุ้มกัน อีกทั้งจะต้องอาศัยความมีวินัยในการทาอย่างต่อเนื่อง และต้องเก็บรักษาในที่เหมาะสมป้องกันวิตามินซีเสื่อมคุณภาพค่ะ

วิตามินซีจากการฉีดวิตามินผิว

การฉีดวิตามินผิวเป็นวิธีได้รับวิตามินซีที่รวดเร็วและง่ายที่สุด เป็นการฉีดวิตามินซีที่มีความเข้มข้นสูงเข้าสู่ผิวโดยตรงผ่านหลอดเลือดดำ คล้ายกับการให้น้ำเกลือ ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งได้ประโยชน์ทั้งภูมิคุ้มกันและความงาม ช่วยฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน

ทั้งหมดนี้คือวิธีรับวิตามินซีเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถปรับใช้ได้ตามอัธยาศัย หรือจะทำควบคู่กันไปมากกว่า 1 วิธีก็ได้ค่ะ แต่ถ้าถามว่าวิธีไหนเร็วที่สุด ? ขอแนะนำการฉีดวิตามินผิวค่ะ ให้ผลลัพธ์ไวกว่าการกินอาหารเสริมหรือผักผลไม้ แถมได้ประโยชน์ทั้งทางร่างกายและผิวพรรณ เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วนและต้องการเสริมภูมิคุ้มกันไปพร้อม ๆ กัน 


ทำไมฉีดวิตามินผิวจึงดีกว่าวิธีอื่น ๆ ?

ก่อนอื่นขอพูดถึงการดูดซึมวิตามินซีของร่างกายก่อนนะคะ แม้เราจะกินวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม แต่ร่างกายต้องผ่านกระบวนการดูดซึม อาจทำให้ดูดซึมวิตามินซีได้ไม่เต็มที่ค่ะ ในขณะที่การฉีดวิตามินผิว เป็นการนำวิตามินซีฉีดเข้าสู่ร่างกายโดยตรง ทำให้ร่างกายได้รับวิตามินซีเต็ม ๆ ดูดซึมได้เต็มที่

อีกทั้งตัวยาของวิตามินผิวมีส่วนผสมสารอาหารชนิดอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย มีประโยชน์ต่อร่างกายได้หลายอย่าง เช่น 

✔ ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ 

✔ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการหวัด โรคภูมิแพ้

✔ ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

✔ ช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น ลดอาการอ่อนเพลีย เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว

หลังฉีดวิตามินผิวจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ประมาณ 3 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 7 – 14 วัน สามารถคงผลลัพธ์นี้ได้ประมาณ 3 อาทิตย์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิว การดูแลผิว และความถี่ในการฉีด ในช่วงแรกควรฉีดอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เมื่อผิวดีขึ้นแล้วสามารถฉีดเดือนละครั้งได้ค่ะ เพื่อน ๆ ควรมาฉีดวิตามินผิวอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาผลลัพธ์ผิวสวยให้อยู่ได้นาน ๆ 

สรุปคือการฉีดวิตามินผิวดีกว่าวิธีอื่น ๆ เนื่องจากเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว และร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังปลอดภัย เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ต้องการดูแลร่างกายและผิวพรรณไปในตัว


สรุป

เห็นไหมคะว่าวิตามินซีมีความสำคัญต่อร่างกายอย่างมาก ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถรับวิตามินซีได้ผ่านวิธีง่าย ๆ ที่ทำได้ในชีวิตประจำวัน หรือจะเป็นวิธีเร่งด่วนอย่างฉีดวิตามินผิว ที่ร่างกายได้รับวิตามินซีโดยตรง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง และทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจฉีดวิตามิน ควรเลือกฉีดวิตามินผิวกับคลินิกที่น่าเชื่อถือ หมอมีประสบการณ์มากพอ และตัวยาได้มาตรฐานค่ะ